เป็นวิตามิน ยอดมนุษย์ พบมากในเมล็ดและไส้ของผลแอบพลิคอต และแอปเปิ้ล มีความสามารถทำให้ผู้ที่อ่อนแอกลับกลายเป็นคนแข็งแรง มีความกล้าหาญ มีส่วนกระตุ้นการหลั่งสารพลังแฝง หรือ ต่อมที่ทำให้คนเราสามารถทำอะไรได้อย่างแปลกประหลาดเวลาตกใจ เช่น ยกโอ่งใบใหญ่เพียงคนเดียวเพื่อหนีไฟไหม้ 

โครงสร้างพื้นฐานของเปลือกโลก ที่่สำคัญคือ ชั้นเหล็ก และชั้นเพชร  ทำยังไงที่เราจะใช้แร่เหล็กจากธรรมชาติน้อยลง วิธีการหนึ่งก็คือ การรีไซเคิลแร่เหล็กที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยลดการทำเหมืองแร่ขุดเจาะเปลือกโลกเพื่อนำแร่เหล็กขึ้นมาใช้ อีก3ทางเลือกก็คือ การนำแร่เหล็กจากอุกาบาตมาใช้ หรือการสังเคราะห์เหล็กจากแร่ธาตุชนิดอื่นนำมาผสมกัน ให้กลายเป็นเหล็กกล้า เพื่อใช้ทดแทนแร่เหล็กจากใต้เปลือกโลก และอีกวิธีก็พัฒนาแร่เหล็กจากสารชีวะภาพ หรือเหล็กชีวะภาพ ซึ่งสามารถพัฒนาได้จากพืชหรือสัตว์

เช่น เราทราบว่าในตัวของสัตว์บางชนิดในแถบเขตอบอุ่น จะมีแร่ธาตุบางชนิดอยู่ในตัวสัตว์เหล่านั้น เช่น น้ำมัน และแร่เหล็ก หรือพืชบางชนิดสามารถให้สารที่มีความแข็งเหนียวทนได้เหมือนเหล็ก

แต่ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ แร่ธาตุกลุ่มเพชร  เพราะเป็นแร่ธาตุที่อยู่ลึกมาก ต้องขุดลงไปในใต้ดินอย่างยากลำบากหรือหายากมาก  แต่เพชรกลับเป็นสิ่งที่น่าจะสร้างขึ้นได้ง่ายกว่าเหล็ก เพราะองค์ประกอบของเพชรกับต้นไม้เหมือนกัน คือ ความเป็นคาร์บอน แต่ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติบางอย่างทำให้ถ่านไม้ หรือต้นไม้ที่เป็นคาร์บอนเปลี่ยนกลายเป็นเพชรได้ หรือ อีกนัยหนึ่งเราอาจสังเคราะห์ขึ้นจากพืชตระกูลว่านหางจระเข้ หรือพืชที่มีแร่ซิลิคอนมาก รวมทั้งเราอาจจะหาสารผสมจากแร่ตัวอื่น มาพัฒนาให้มีคุณสมบัติเหมือนเพชร ก็อาจเป็นไปได้ หรือเป็นไปได้แล้วในบางส่วนของธุรกิจอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีการเปิดเผย  

ซึ่งหากเราสามารถเลิกใช้แร่ธาตุทั้งสองชนิดนี้จากใต้เปลือกโลก ก็คงไม่เบาใจเรื่องเปลือกโลกชั้นบนสุดจะพังถล่มลงไป 

ที่ขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ต่างก็มี ทั้งน้ำแข็ง และน้ำทะเล ที่สะอาด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บางชนิด เช่น สิงโตทะเล แมวน้ำ หมาป่า  หมีขั้วโลก นกเพนกวิน ปลาวาฬเพชฌฆาต และปลาโลมาบางชนิด  แต่ปัญหาคือ เราจะนำเอาปริมาณน้ำที่มีมากมายเหล่านี้มาใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันน้ำแข็งขั้วโลกละลายได้อย่างไร

มีการสำรวจหาดวงดาวที่มีน้ำ หรือมีน้ำแข็งที่ขั้วโลก โดยองค์การนาซ่า มาหลายปี เพราะหมายมั่นจะไปตั้งอาณานิคมบนดวงดาวที่มีแหล่งน้ำหรือมีน้ำแข็ง เนื่องจากมีเทคโนโลยี่ที่สามารถแยกไฮโดรเจนและอ๊อกซิเจ่น จากน้ำแข็งหรือแหล่งน้ำเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน หรือสร้างอากาศหายใจเพื่อการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์ 

หากองค์การนาซ่ามั่นใจมากขนาดนั้นว่ามีเทคโนโลยี่มากเพียงพอที่จะไปตั้งรกรากอาศัยบนดวงดาวที่มีน้ำแข็งหรือมีแหล่งน้ำในใต้ดินของดวงดาวเหล่านั้นด้วยการแปรเปลี่ยนน้ำให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านอากาศหายใจและเป็นแหล่งงานได้อย่างสบายๆ  

แล้วทำไมไม่ใช้เทคโนโลยี่ ที่ืชื่อว่า เยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอนมาใช้กับน้ำแข็งและน้ำทะเลที่มีมากมายในขั้วโลก โดยผลิตเป็นไฟฟ้าจ่ายไฟให้กับพัดลมขนาดยักษ์ หรือแอร์ขนาดยักษ์ ตลอดจนเครื่องทำความเย็นในรูปแบบต่างๆ เพื่อทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกไม่ละลาย แต่กลับเพิ่มยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถปลูกสร้างโรงเรือนเพาะชำป่าไม้ปกคลุมบนผิวน้ำแข็ง ไม่ให้โดนแสงแดดแผดเผาได้ เหมือนกับการเอาน้ำแข็งหลอดใส่ไว้ในถังน้ำแข็งใบใหญ่ หรือกระติกน้ำแข็งใบใหญ่   

 แถมยังสามารถผลิตน้ำดื่มและอ๊อกซิเจ่นอย่างดีจากน้ำและน้ำแข็งจากขั้วโลกได้อย่างไม่มีวันหมดตราบใดที่ยังมีแหล่งน้ำ  โดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงชนิดอื่นเลย หรือจะทำฟาร์มเพาะเลี้ยงสาหร่ายในทะเลขั้วโลก ก็ยังได้ รวมทั้งพืชคลุมดินที่ชอบความหนาวเย็นเพื่อปกป้องการแผดเผาจากแสงแดดจากดวงอาทิตย์ก็ยังทำได้